5 แนวทางบริหารร่างกายเพื่อลดหุ่นไม่ถูกๆที่คนมักไม่รู้ตัว

1. ไม่กินอาหารที่ให้พลังงานก่อนบริหารร่างกาย
บางบุคคลบ้าบริหารร่างกายมากมาย เพื่อรูปร่างเล็กลง น้ำหนักต่ำลง ก็เลยเพียรพยายามควบคุมจำนวนของกินที่ทานเข้าไป รวมทั้งไปบริหารร่างกายหนักๆด้วยรู้เรื่องว่าจะ “เบิร์น” เอาพลังงานที่ทานเกินเข้าไปออกให้หมด แม้กระนั้นรู้หรือเปล่าว่า ถ้าหากไม่รับประทานอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกายเลย แล้วไปบริหารร่างกายหนักๆนอกเหนือจากการที่จะมีสิทธิ์เป็นลมเป็นแล้งไปได้แล้ว ยังบางทีอาจเสี่ยงเป็นโรคขาดสารอาหารในระยะยาวอีกด้วย และก็บอกได้เลยว่าร่างกายรวนแน่นอน
โดยเหตุนี้กินอาหารให้มากมาย รับประทานอาหารให้ครบทุกกลุ่ม เพียงแค่จำกัดจำนวนให้ดี และก็หลังจากนั้นจึงค่อยบริหารร่างกายดีมากยิ่งกว่าจ้ะ
2. บริหารร่างกายอย่างเดียว
เคยได้เห็นผู้ที่ไปบริหารร่างกายที่ฟิตเนส แล้วมัวแต่ชูเวทหรือไม่ค่ะ ถ้าหากเขาลุกไปเล่นเครื่องบริหารร่างกายอื่นๆด้วยดีแล้วไป แต่ว่าหากมองเห็นเขาเล่นแต่ว่าแขนสิ่งเดียว หรือกล้ามท้องสิ่งเดียว จำต้องเตือนเขาแล้วล่ะ เพราะเหตุว่าการบริหารร่างกายเพื่อความแข็งแรงของร่างกายอย่างแท้จริง จำเป็นต้องบริหารร่างกายให้ได้ทุกส่วน ทั้งยังแขน ขา ท้อง บั้นท้าย หรือส่วนอื่นๆด้วย หากพุงมีสิกข์แพค แต่ว่าแขนขาไม่เฟิร์มก็อาจจะแปลกๆโดยเหตุนี้เพียรพยายามบริหารร่างกายให้ครบทุกส่วนนะคะ
3. คาร์ดิโอมากเหลือเกิน
มีอีกบางชนิดที่มัวแต่วิ่งๆกระโจนๆว่าย ขี่จักรยาน กระตุ้นให้ร่างกายเหนื่อย หัวใจเต้นอยู่เสมอเวลา แม้เล่นคาร์ดิโอเพื่อเบิร์นหนักๆร่างกายจะเริ่มปรับนิสัยให้เคยชินกับการเบิร์นในแบบงั้น จากที่เคยใช้เวลา 30 นาที เพื่อเบิร์น 200 กิโลแคลอรี่ ถ้าร่างกายปรับพฤติกรรมเวลาใด พวกเราบางทีก็อาจจะวิ่งได้นานขึ้น อ่อนเพลียลดลง แต่ว่าเผาผลาญพลังงานเหมือนเดิม เพราะฉะนั้น พวกเราควรจะบริหารร่างกายแบบอื่นๆสลับกันไปเรื่อยอย่าให้ร่างกายเคยชินกับคาร์ดิโอมากเหลือเกิน
4. ไม่วอล์มอัพ-คูลดาวน์
ใครอีกหลายๆคนไม่มองเห็นจุดสำคัญของการอบอุ่นร่างกายก่อนบริหารร่างกาย รวมทั้งลืมที่จะคูลดาวน์ข้างหลังบริหารร่างกายด้วย แม้กระนั้นทราบไหมว่าทั้งคู่แบบนี้มีความจำเป็นต่อสภาพร่างกายมากมายๆเพราะว่าการวอล์มอัพ และก็คูลดาวน์เป็นการช่วยลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเจริญ ยิ่งกว่านั้นยังเป็นการวอล์มกล้ามเนื้อหัวใจ ให้เต้นเป็นจังหวะ ไม่เร่งเร้าการสูบฉีดเลือดเยอะเกินไป ลดอาการหอบอย่างกระทันหัน หรือหน้ามืดจากการบริหารร่างกายได้มากขึ้นอีกด้วย
5. นับแคลอรี่เป็นจริงเป็นจัง
จะรับประทานอะไรก็นั่งนับให้ละเอียด ถือเครื่องคิดเลขมานั่ตระหนี่ดๆเหลือเกิน 10 กิโลแคลอรี่ก็จะไม่รับประทาน แบบงี้เรียกว่าเคร่งเหลือเกิน ซึ่งอาจจะก่อให้กำเนิดปัญหาที่เกิดขึ้นทางสุขภาพเกี่ยวกับจิตได้ในคราวหลัง ทางที่ดีควรจะทานอย่างละเอียด ทานพออิ่ม เลือกชนิดของของกินที่ทาน มีสติสัมปชัญญะว่าวันนี้ทานอะไรไปบ้าง ควรจะหรือเปล่าควรจะทานต่อ แล้วบริหารร่างกายตามเดิม ทำบ่อยเป็นประจำทุกๆวัน เท่านี้ก็ไม่ต้องนับแคลอรี่ให้วุ่นวาย นอกเหนือจากปริมาณแคลอรี่จะมิได้เสมอกันทุกจาน ทุกมื้ออย่างที่ทราบแล้ว ถ้าหากช่วงเวลากลางวันทานเยอะแยะแล้ว จัดการกับปัญหาด้วยการไม่กินอาหารเย็นเลย ก็บางทีอาจเสี่ยงเป็นโรคกระเพาะในอนาคตได้
ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ ถ้าหากต้องการบริหารร่างกายเพื่อลดหุ่นอย่างได้ผล แม้กระนั้นยังไม่แน่ใจในท่าบริหารร่างกาย หรือการกินอาหาร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยของร่างกายพวกเราเอง คุณสามารถขอรับคำหารือจากผู้เชี่ยวชาญด้านการโภชนาการ และก็เทรนเนอร์ประจำฟิตเนสได้จ้ะ
ติดตามบทความอีกมากมายที่นี่